ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องเล่าจากพ่อ...เขาสามมุขในอดีต

  
           พ่อผมเกิดมาแม่ก็เสียชีวิตทันที  ยายกับก๋งเลี้ยงพ่อมา สมัยก่อนพ่อว่าเรื่องผีดุเป็นเรื่องจริง คนที่เอาพ่อไปช่วยเลี้ยงเจอดีกันแทบทุกคน สมัยก่อนที่ เขาสามมุขยังไม่ทำถนนนั้น ตรงศาลเจ้าแม่สามมุขจะเป็นหน้าผา เวลาน้ำลงต้องเดินไต่หน้าผาไป  ต้องเดินระมัดระวัง สมัยก่อนมีบ้านคนไม่กี่หลังคาเรือน  บ้านคนจะอยู่ทางแถบด้านร้านอาหารวังมุขเรื่อยไปทางหมู่บ้าน ตรงช่วงศาลาฤาษี จนถึงตลอดทางลงเนินร้านข้าวต้มโอ่ง จิ๊บ&จ๊อย จะมีการปลูกผลไม้ ทั้ง ๒ ฝั่ง ตอนทำถนนแล้วลิงมีไม่มากเพราะมีการระเบิดเขาทำถนน ทำให้ลิงอพยพไปอยู่ที่อื่น พ่อเล่าว่ายายทำโป๊ะ ยายจะต้องคอยจุดตะเกียงที่ศาลไม่ให้ดับ ในวันพระ และพ่อก็ต้องทำหน้าที่ด้วยในเวลาที่ยายใช้ไปจุดตะเกียง สมัยก่อน จะเป็นศาลเล็ก ๆ จะอยู่ในซอกหิน พอสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม มาสร้างถนน ดินและหินได้ทับตัวศาล ก๋งได้ขุดดินและหินออกไป 
           ปัจจุบันมีลิงมากขึ้น เนื่องจากมีการออกลูก ออกหลาน แล้วอีกกรณีมีคนนำลิงมาปล่อยซึ่งก็เป็นส่วนน้อย ทำให้เห็นลิงพันธุ์อื่นด้วย นอกจากลิงแสม หรือลิงป่าชายเลน (ผมอ่านเจอบ้างเว็บไซต์บอกลิงป่า ผมว่าน่าจะเป็นลิงป่าชายเลน ) เพราะพ่อว่าแต่ก่อนมีต้นแสมมาก พ่อเล่าอีกว่า ยายบอกว่า วันพระใหญ่ วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์ ดังมาจากบริเวณศาลเจ้าแม่สามมุข อยู่เป็นประจำ และจากการที่ผมไปสอบถาม คนรุ่นเก่าที่ผมคิดว่าทันยายทวด ก็ได้รับคำบอกเล่ากันมาจริง ในเรื่องเสียงดนตรีปี่พาทย์ ดังมาจากบริเวณศาลเจ้าแม่ ส่วนเรื่องสมบัติในถ้ำตามตำนาน นั้นตามคำบอกเล่าว่า มีอยู่จริง แต่พ่อคิดเองว่าอาจเป็นของโจรสลัด เอามาเก็บไว้ พ่อเล่าอีกว่า ยายดูแลศาลเรื่อยมา ตอนหลังมีตาแป๊ะ น่าจะเป็นเซียนด้วย มาอยู่ศาลเจ้าแม่สามมุขด้วย 
            ต่อมาตาแป๊ะได้ไปสร้างศาลขึ้นใหม่ ซึ่งใช้เป็นชื่อศาลจ้าวแม่สามมุข (ศาลจีน) ปัจจุบัน ซึ่งรายละเอียดการสร้างศาลขึ้นใหม่อีกที่นั้นเพราะอะไร ผมไม่สรุป เนื่องจากคนที่รู้แน่ ๆ คือยายทวด (คนดูแลศาล) และตาแป๊ะ ก็เสียชีวิตไปแล้ว และคำบอกเล่าที่ผมถามญาติ ๆ และ หรือผู้ใหญ่ ตามลับดับอายุ ความใกล้ชิดยายทวด ที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ให้ข้อมูลตรงกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง เลยไม่สรุปเรื่องที่มีการสร้างศาลขึ้นใหม่ที่อยู่ ใกล้ร้านอาหารวังมุข
   ภาพถ่ายจาก เทศบาลเมืองแสนสุข      
 
 รูปถ่ายเขาสามมุข ในอดีต

 ** ข้อสังเกตุของผม จากเรื่องเล่าและตำนาน ที่เล่ากันมาหรือเรียนตามตำรากันมา จากหนังสือบ้าง กล่าวถึงถ้ำ แสดงให้เห็นว่าศาลเจ้าแม่สามมุข (ดั้งเดิม) ที่อยู่ที่ปัจจุบัน ได้อยู่ตรงหน้าผานี้ และสร้างมาแต่โบราณแล้ว เพราะตั้งอยู่ที่ซอกหิน จากการต่อเติมจนถึงปัจจุบัน มีการทำหลังคาขึ้น เลยดูจากภายนอกเหมือนไม่อยู่ในซอกหินและในตัวศาลเจ้าแม่สามมุข (ดั้งเดิม) ก็ยังมีถ้ำอยู่ภายใน บางถ้ำก็ได้ปิดไว้ เนื่องจากกลัวเป็นอันตราย และส่วนตำนานเจ้าแม่สามมุข บางคนก็เล่าว่าสมัยเด็กไม่เคยได้ยินตำนาน แต่มีศาลเจ้าแม่สามมุข ตั้งอยู่แต่ครั้งปู่-ย่า แล้ว

**** พบการใช้ทั้งคำว่า จ้าวแม่สามมุก-จ้าวแม่สามมุข  เจ้าแม่สามมุข-เจ้าแม่สามมุข   ปัจจุบันถนนทางเทศบาลเมืองแสนสุข ใช้คำว่า "สามมุข"
       ดูการใช้คำ เจ้ากับจ้าว
       ดูการใช้คำ สามมุกกับสามมุข
        คุณยายทวดได้เสียชีวิตแล้วหลายปี ตั้งแต่ผมยังเด็ก ปัจจุบันผู้ที่ดูแลศาล เป็นลูกชายคนเล็กของคุณยายทวดรวมทั้งหลาน ๆ

  เขียนโดย : HS2LDA

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"เจ้าแม่สามมุก" ในนิราศเมืองแกลง

             จากหนังสือ "รวมเรื่องเมืองชล" ตาม หลักฐานทางวรรณคดี จะปรากฏว่าเจ้าแม่ "สามมุก" เป็นเจ้าแม่ที่มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์ จากนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่รัตนกวี ได้พรรณาถึงการเดินทาง ไปเยี่ยมบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง ในระหว่างไปทางเรือ ด้วยกัน ๔ คนคือ สุทรภู่ กับศิษย์เอกสองคนชื่อ นายน้อย กับ นายพุ่ม มีชาวระยองชื่อ นายแสง เป็นผู้นำทาง ระหว่างนั้นสุนทรภู่มีอายุ ๒๑ ปี เดินทางไปเมืองแกลง พ.ศ. ๒๓๕๐ เมื่อเรือผ่านบางปะกง จะเข้าบางปลาสร้อยก็พบมรสุม สุนทรภู่ได้รจนาไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า                                                                          ...

ตำนานเจ้าแม่สามมุก (เจ้าแม่สามมุข)

        จากเรื่องเล่าต่อกันมาในท้องถิ่น และมีความใกล้เคียงกับเนื้อหาหนังสือเรียนสมัยก่อน ผมคัดมาลอกจากใบตำนานเจ้าแม่สามมุข ซึ่งจัดทำถวายเจ้าแม่สามมุขโดย นายสิทธิชัย และครอบครัวไชยยืนยงพิพัฒน์         ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณทะเลบางแสน และเขาสามมุขยังไม่มีบ้านเรือนผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบัน แต่ก่อนชื่อ “บางแสน” และเขาสามุขยังไม่ปรากฏ จะมีแต่ตำบลอ่างหิน ซึ่งปัจจุบันก็คือ ตำบลอ่างศิลา ซึ่งเป็นชุมชนของชาวประมงริมทะเล ณ ต.อ่างหิน (อ่างศิลา) นี้เอง มีเจ้าของโป๊ะชื่อ “กำนันบ่าย” มีลูกชายชื่อ “แสน” ห่างจาก ต.อ่างหินพอประมาณ มียายกับหลานอาศัยอยู่ ยายมีชื่อเสียงเรียงนามใดไม่ปรากฏ ส่วนหลานนั้นมีชื่อว่า “สามมุข” เป็นคนอยู่ในเมืองปลาสร้อย (จ.ชลบุรีในปัจจุบัน) เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต ได้อาศัยอยู่กับยายจนกระทั่งโต สามมุขมักจะชอบดูหนุ่ม-สาวรวมทั้งเด็ก ๆ ที่มาเล่นว่าวในหน้าลมอยู่ริมเชิงเขาประจำ และมีเพื่อนที่คอยหยอกล้อเล่นอยู่ประจำ ก็คือลิงป่า ที่ลงมาจากเขาแถวนั้น อยู่มาวันหนึ่งขณะที่สามมุขกำลังเล่นอ...