ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"เจ้าแม่สามมุก" ในนิราศเมืองแกลง


             จากหนังสือ "รวมเรื่องเมืองชล" ตาม หลักฐานทางวรรณคดี จะปรากฏว่าเจ้าแม่ "สามมุก" เป็นเจ้าแม่ที่มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์ จากนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่รัตนกวี ได้พรรณาถึงการเดินทาง ไปเยี่ยมบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง ในระหว่างไปทางเรือ ด้วยกัน ๔ คนคือ สุทรภู่ กับศิษย์เอกสองคนชื่อ นายน้อย กับ นายพุ่ม มีชาวระยองชื่อ นายแสง เป็นผู้นำทาง ระหว่างนั้นสุนทรภู่มีอายุ ๒๑ ปี เดินทางไปเมืองแกลง พ.ศ. ๒๓๕๐ เมื่อเรือผ่านบางปะกง จะเข้าบางปลาสร้อยก็พบมรสุม สุนทรภู่ได้รจนาไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า

                                                                                 ....เห็นเมฆมัวลมแดงดังแสงเสน

                         สักประเดี๋ยวเหลียวดูลำพูเอน            ยอดระเนนนาบน้ำอยู่รำไร

                        ป่าแสมแลเห็นอยู่ริ้วริ้ว                       ให้หวิววาบวับฤทัยไหว

                        จะหลบหลีกเข้าฝั่งก็ยังไกล                คลื่นก็ใหญ่โยนเรือเหลือกำลัง

                        สงสานแสงแข็งข้อจนขาสั่น              เห็นเรือหันโกรธบ่นเอาคนหลัง

                       น้ำจะพัดปัดตีไปสีชัง                           แล้วคลุ้มคลั่งเงี่ยนยาทำตาแดง

                       ปลอบเจ้าพุ่มพึมพำว่ากรรมแล้ว           อุตส่าห์แจวเข้าเถิดพ่อให้ข้อแข็ง

                       สงสารน้อยหน้าจ๋อยนั่งจัดแจง            คิดจะแต่งตัวตายไม่พายเรือ

                       พี่แข็งขืนฝืนภาวนานิ่ง                         แลตลิ่งไรไรยังไกลเหลือ

                      เห็นเกินรอยบางปลาสร้อยอยู่ท้ายเรือ   คลื่นก็เฝือฟูมฟองคะนองพราย

                      เห็นจวนจนบนเจ้าเขาสำมุก                  จงช่วยทุกข์ถึงที่จะทำถวาย

                     พอขาดคำน้ำขึ้นทั้งคลื่นคลาย             ทั้งสายนายหน้าชื่นค่อยเฉื่อยมา..

       
        น่าอัศจรรย์พอสุนทรภู่บนบานเจ้าแม่สามมุก คลื่นลมก็เบาบางลงเรือของสุนทรภู่ก็ถึงบางปลาสร้อยได้ดังใจหวัง สุนทรภู่ได้นิพนธ์ต่อไปว่า

                    หยุดสะพานย่านกลางบางปลาสร้อย    พุ่มกับน้อยสรวลสันต์ต่างหรรษา

                     นายแสงหายคลายโทโสที่โกธา           ชักกัญชานั่งกริ่มยิ้มละมัย

      
        ตลอดนิราศเมืองแกลง อมตนิพนธ์ของสุนทรภู่ รัตนกวีศรีเมืองไทยไม่ได้บรรยายไว้ว่า เมื่อเรือจอดบางปลาสร้อยเรียบร้อยแล้ว สุนทรภู่ได้แก้บนเจ้าแม่สามุกหรือเปล่า เพราะสุนทรภู่เดินเท้าไปทางหนองมน บางพระ ทุ่งสุขลา ต่อไปจนถึงระยอง หรือสุนทรภู่ อาจจะนิพนธ์บนบานเจ้าแม่ "สามมุก" ไปตามอารมณ์กวีของตน ที่มีความเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่สามุก ชีวิตสุนทรภู่จึงลุ่ม ๆ ดอน ๆ ด้วยแรง "เจ้าแม่" มาตลอด

                 ข้อมูลอ้างอิง : หนังสือ รวมเรื่อง "เมืองชล" /อธึก สวัสดีมงคล, ธีรชัย ทองธรรมชาติ.
                                        เลขเรียกหนังสือ 959.3 อ151ร
                                        ชลบุรีอ่านได้ที่ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องเล่าจากพ่อ...เขาสามมุขในอดีต

               พ่อผมเกิดมาแม่ก็เสียชีวิตทันที  ยายกับก๋งเลี้ยงพ่อมา สมัยก่อนพ่อว่าเรื่องผีดุเป็นเรื่องจริง คนที่เอาพ่อไปช่วยเลี้ยงเจอดีกันแทบทุกคน สมัยก่อนที่ เขาสามมุขยังไม่ทำถนนนั้น ตรงศาลเจ้าแม่สามมุขจะเป็นหน้าผา เวลาน้ำลงต้องเดินไต่หน้าผาไป  ต้องเดินระมัดระวัง สมัยก่อนมีบ้านคนไม่กี่หลังคาเรือน  บ้านคนจะอยู่ทางแถบด้านร้านอาหารวังมุขเรื่อยไปทางหมู่บ้าน ตรงช่วงศาลาฤาษี จนถึงตลอดทางลงเนินร้านข้าวต้มโอ่ง จิ๊บ&จ๊อย จะมีการปลูกผลไม้ ทั้ง ๒ ฝั่ง ตอนทำถนนแล้วลิงมีไม่มากเพราะมีการระเบิดเขาทำถนน ทำให้ลิงอพยพไปอยู่ที่อื่น พ่อเล่าว่ายายทำโป๊ะ ยายจะต้องคอยจุดตะเกียงที่ศาลไม่ให้ดับ ในวันพระ และพ่อก็ต้องทำหน้าที่ด้วยในเวลาที่ยายใช้ไปจุดตะเกียง สมัยก่อน จะเป็นศาลเล็ก ๆ จะอยู่ในซอกหิน พอสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม มาสร้างถนน ดินและหินได้ทับตัวศาล ก๋งได้ขุดดินและหินออกไป             ปัจจุบันมีลิงมากขึ้น เนื่องจากมีการออกลูก ออกหลาน แล้วอีกกรณีมีคนนำลิงมาปล่อยซึ่งก็เป็นส่วนน้อย ทำให้เห็นลิงพันธุ์อื่นด้วย นอ...

ตำนานเจ้าแม่สามมุก (เจ้าแม่สามมุข)

        จากเรื่องเล่าต่อกันมาในท้องถิ่น และมีความใกล้เคียงกับเนื้อหาหนังสือเรียนสมัยก่อน ผมคัดมาลอกจากใบตำนานเจ้าแม่สามมุข ซึ่งจัดทำถวายเจ้าแม่สามมุขโดย นายสิทธิชัย และครอบครัวไชยยืนยงพิพัฒน์         ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณทะเลบางแสน และเขาสามมุขยังไม่มีบ้านเรือนผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบัน แต่ก่อนชื่อ “บางแสน” และเขาสามุขยังไม่ปรากฏ จะมีแต่ตำบลอ่างหิน ซึ่งปัจจุบันก็คือ ตำบลอ่างศิลา ซึ่งเป็นชุมชนของชาวประมงริมทะเล ณ ต.อ่างหิน (อ่างศิลา) นี้เอง มีเจ้าของโป๊ะชื่อ “กำนันบ่าย” มีลูกชายชื่อ “แสน” ห่างจาก ต.อ่างหินพอประมาณ มียายกับหลานอาศัยอยู่ ยายมีชื่อเสียงเรียงนามใดไม่ปรากฏ ส่วนหลานนั้นมีชื่อว่า “สามมุข” เป็นคนอยู่ในเมืองปลาสร้อย (จ.ชลบุรีในปัจจุบัน) เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต ได้อาศัยอยู่กับยายจนกระทั่งโต สามมุขมักจะชอบดูหนุ่ม-สาวรวมทั้งเด็ก ๆ ที่มาเล่นว่าวในหน้าลมอยู่ริมเชิงเขาประจำ และมีเพื่อนที่คอยหยอกล้อเล่นอยู่ประจำ ก็คือลิงป่า ที่ลงมาจากเขาแถวนั้น อยู่มาวันหนึ่งขณะที่สามมุขกำลังเล่นอ...